เที่ยวหลีเป๊ะ ยังไงให้คุ้ม เกาะหลีเป๊ะ เรียกได้ว่า “มัลดีฟส์เมืองไทย” เป็นเกาะกลางทะเลที่อยู่ในเขตจังหวัดสตูล อยู่ทางตอนใต้ของเกะอาดัง เป็นเกาะที่มีน้ำตื้น และเงียบสงบ ท้องทะเลที่สวยงามสดใสสวยงาม ชายหาดที่ขาวสะอาดราวกับแป้ง ธรรมชาติรอบเกาะมีปะการังรายล้อมรอบเกาะหลีเป๊ะ เรามาทำความรู้จักกับเกาะหลีเป๊ะ ที่นี่มีชายหาดไม่เยอะ มีหลักๆ อยู่ 3 หาด ซึ่ง 3 หาดนี้มีความสวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละหาด เกาะหลีเป๊ะถือว่าติดท็อปทะเลที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย ใครได้มาเที่ยวที่นี่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติทั้งบนบกและใต้น้ำ นักท่องเที่ยวหลายๆคนบอกว่าที่นี่คือเกาะในฝันเลยทีเดียว เที่ยวหลีเป๊ะยังไงให้คุ้ม เรามาเริ่มทำความรู้จักกับทั้ง 3 หาด กันก่อนเลย
หาดซันไรส์ (Sunrise Beach) เป็นหาดแรกที่เราจะเริ่มต้นเที่ยวหลีเป๊ะครับ ตามชื่อเลยคือมีพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดนี้ น้ำทะเลใส ที่นี่เหมาะแก่การดำน้ำเพื่อชมปลาการ์ตูน และสัมผัสกับดอกไม้ทะเลที่รอบหาด สีชายหาดน่าตามอง สวยงามมากๆ ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวสถาพอากาศของที่หาดซันไรส์จะดีมากๆ เนื่องจากมีลมพัดเข้าหาฝั่งตลอดเวลา อีกทั้งหาดซันไรส์ไม่ค่อยมีผับ บาร์ หรือสถานบันเทิง ทำให้หาดนี้ค่อนข้างสงบ สำหรับคนที่ชอบเดินรับลมริมทะเล หรือนอนพักผ่อนจิบเครื่องดื่มเย็นๆ บรรยากาศสบายๆ ผมขอแนะนำให้คุณมาเที่ยวที่นี่ครับ เพื่อให้ทริปเที่ยวหลีเป๊ะของคุณคุ้มค่าและมีความสุขมากที่สุด
หาดพัทยาหรือหาดบันดาหยา เป็นหาดที่ต่อไปที่เราจะไปเลยครับ หาดนี้ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะ มีชื่อเสียงอีกชื่อหนึ่งว่าหาดบันดาหยา หาดนี้ถือเป็นหาดที่มีความคึกคักมากที่สุดบนเกาะ โป๊ะท่าเรือกลางก็อยู่ใกล้หาดพัทยาเป็นจุดจอดเรือสปีดโบ๊ท ที่ให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยว มีเรือหางยาววิ่งเข้าออกตลอดเวลา และหาดนี้มีทรายสีขาวที่นุ่มละมุน เมื่อเราเดินบนหาดเท้าจะสัมผัสกับเม็ดทรายที่นุ่มละเอียด หาดพัทยามีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่าหาดอื่น ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ทัวร์ดำน้ำ และตกค่ำตอนกลางคืนจะคึกคักมากๆ โดยมีการแสดงแสงสีเสียงริมชายหาด เพื่อให้ทุกคนได้รับชมและสนุกไปพร้อมๆ กันครับ
ถัดไปเราจะไปหาดสุดโรแมนติกกับพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่หาดซันเซ็ท (Sunset Beach) หาดนี้ตั้งอยู่ต้านตะวันตกเข้าของเกาะ และเป็นหาดที่มีความสงบ นักท่องเที่ยวน้อย และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าหาดอื่น ผมอยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสและสนุกไปกับบรรยากาศของหาดนี้เอง วิถีชีวิตของคนในเกาะหลีเป๊ะ ต่อไปเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันต่อไป เราจะรอคุณมาเล่าให้เราทราบครับ
Table of contents
หากมาหลีเป๊ะแล้วจะพลาดไม่ได้เลยก็คือ การไปดำน้ำ
การเดินทางต่อจากการเพลิดเพลินกับน้ำทะเลใสและหาดทรายสวย เราจะพาคุณไปดำน้ำชมความงามใต้ทะเลต่อครับ หากจะบอกก่อนว่าการดำน้ำจะแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนรอบในจะมีร่องน้ำจาบังเป็นจุดดำน้ำที่มีน้ำเชี่ยวมาก ต้องเกาะเชือกไว้นะทุกคน แต่ด้วยความงามของปะการังอ่อนหลากสีนั้นดีต่อใจจริงๆ เกาะหินงานตามชื่อที่มีเกาะนี้มีหินสีดำเงา ระยิบระยับเมื่อกระทบกับน้ำทะเล หากใครไปแล้วพลาดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายรูปเก็บไว้ แต่เกาะหินงามนี้มีสิ่งที่ห้ามทำอยู่นะคือ ห้ามเก็บหินกลับไปด้วย ห้ามเรียงหิน เกาะอาดังจะอยู่ใกล้กับเกาะราวี ที่พิเศษของเกาะนี้คือมีจุดชมวิวที่ผาชะโด ที่สุดท้ายของโซนรอบในหาดทรายขาวที่เกาะราวี ที่มีทรายขาวละเอียดสวยงามมากๆ น้ำทะเลใส สามารถลงเล่นน้ำได้ เกาะราวีจะเป็นที่พักรับประทานอาหารกลางวันของนักท่องเที่ยวเพราะมีน้ำจืดให้ใช้ฟรีจากอุทยาน ต่อไปเป็นโซนรอบนอก เกาะรอกลอยจะห่างจากเกาะหลีเป๊ะประมาณ 1 ชั่วโมง เกาะรอกลอยน้ำจะตื้นมีปะการังเขากวางเยอะมากๆ หาดทรายก็สวยมาก เกาะดงเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีเกาะบริวารเล็กๆหลายเกาะ หนึ่งในเกาะบริวารคือเกาะหินซ้อน จึงมักเรียกกันว่า หมู่เกาะดง มีหาดที่สวยงามคือหาดลิง เกาะหินซ้อนจะมีหินก้อนใหญ่ที่ซ้อนกันอย่างกับจับวาง โดยที่หินก้อนบนไม่ตกลงมา ซึ่งเป็นความแปลกที่มีความสวยงามของธรรมชาติทำให้เกาะนี้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว รอบๆเกาะเราสามารถที่จะดำน้ำดูปะการังแข็ง ปะการังอ่อน ปะการังเจ็ดสี และปลาการ์ตูน และเกาะผึ้ง เกาะนี้ตั้งอยู่ระหว่างเกาะดงกับเกาะราวี เกาะผึ้งไม่มีหาดทราย เสน่ห์ของเกาะผึ้งคือปะการังตามโขดหินใต้น้ำ นักท่องเที่ยวจะต้องไต่ไปตามเชือกที่ผูกไว้นะเกราะเกาะนี้อยู่กลางร่องน้ำ ผมแนะนำให้แบ่งทริปดำน้ำเป็น 2 วัน เพื่อให้ไม่เหนื่อยมาก
เราเล่นน้ำกันมาทั้งวัน ต้องผ่อนคลายด้วยการนวดแผนไทย หลังจากกลับจากทริปดำน้ำ เราอาจจะเมื่อยตัว เหนื่อยจากการเล่นน้ำมาทั้งวัน การนวดผ่อนคลายเป็นอีกตัวเลือกที่ดีมากๆ บนเกาะหลีเป๊ะมีร้านนวดแผนไทยมากมายริมชายหาด นวดชิลๆนอนตากลมเย็นๆ หรือใครไม่อยากนวดผ่อนคลาย ก็มีสปาในรีสอร์ทให้เลือกใช้บริการกันได้ตามสบายเลยครับ
ที่ต่อไปที่เราจะไปกันคือ ถนนคนเดินเกาะหลีเป๊ะ (Kohlipe Walking Street)
ถนนคนเดินเกาะหลีเป๊ะ เป็นจุดหมายปลายทางที่คนมาเที่ยวหลีเป๊ะต้องแวะเวียนที่นั่นแน่นอนครับ ที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านค้าและร้านอาหารที่ให้คุณได้เลือกเล่นและชิมอาหารต่างๆอย่างจุใจได้เต็มที่ เช่น ร้านอาหารทะเลสดๆที่มีรายการอาหารให้เลือกทุกวัน ร้านโรตี-ชาชักที่เป็นดังและมีชื่อเสียง รวมถึงร้านของที่ระลึกต่างๆที่มีมากมายให้คุณเลือกซื้อไปเป็นของที่ระลึก ถนนคนเดินเกาะหลีเป๊ะมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่หาดพัทยาไปจนถึงหาดซันไรส์ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ถนนคนเดินเกาะหลีเป๊ะคึกคักและมีสีสัน
ที่พักเกาะหลีเป๊ะ (Lipe Resort)
เมื่อมาเที่ยวที่เกาะหลีเป๊ะคุณจะได้สัมผัสความสวยงามทางธรรมชาติที่ไม่เคยพบมาก่อน เช่น น้ำทะเลที่เป็นเขียวมรกตสดใสและหาดทรายขาวละเอียดที่สวยงาม ที่พักบนเกาะหลีเป๊ะก็มีความสวยงามและบรรยากาศที่ดี เป็นสถานที่ที่สร้างความประทับใจให้กับวันที่คุณมาเที่ยวที่เกาะหลีเป๊ะได้
มีที่พักหลากหลายรูปแบบและสไตล์ที่คุณสามารถเลือกตามความชอบและความต้องการของคุณได้ เช่น ที่พักสไตล์โมเดิร์นที่ตกแต่งภายในสวยหรูและมีมุมถ่ายรูปหลากหลาย หรือหากคุณต้องการบรรยากาศที่ร่มรื่นและสบายก็มีที่พักริมทะเลที่มีสระว่ายน้ำยาวผ่านหน้าห้อง หรือคุณอาจเลือกที่พักสไตล์บ้านไม้ที่ให้ความรู้สึกกลมกลืนไปกับธรรมชาติ อีกทั้งยังมีรีสอร์ทติดทะเลรายล้อมด้วยต้นไม้ให้ร่มเงาอากาศเย็นสบาย หากคุณเหนื่อยจากการเดินทางคุณสามารถเลือกบริการนวดผ่อนคลายหรือใช้อ่างสปาหรือห้องซาวน์น่าเพื่อความผ่อนคลาย ที่พักแบบโฮสเทลสไตล์โมเดิร์นสามารถพบปะผู้คนใหม่ได้และนั่งที่เค้าน์เตอร์บาร์ฟังเพลงเบาๆเพลิดเพลินกับการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆกับคนแปลกหน้า ที่พักแบบ Exclusive จะมอบความเป็นส่วนตัวและความเงียบสงบให้คุณ และหากคุณต้องการความสนุกสนานกับเพื่อนๆ สามารถเลือกที่พักชนิดพูลวิลล่าส่วนตัวที่มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับกิจกรรมหรือแม้กระทั่งหากคุณต้องการเป็นครอบครัวสามารถพักที่มีพื้นที่กว้างขวางและรองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกกรุ๊ป ที่เกาะหลีเป๊ะมีที่พักหลากหลายให้คุณเลือกตามความต้องการและความสะดวกสบาย
เดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ
สำหรับการเดินทางมาเยือนเกาะหลีเป๊ะ คุณสามารถเลือกใช้วิธีการเดินทางต่างๆ ที่สะดวกและเหมาะกับคุณได้เลย
วิธีการเดินทางแรกคือโดยการใช้เครื่องบิน โดยบินจากกรุงเทพฯ ไปยังหาดใหญ่ จากนั้นสามารถนั่งรถแท็กซี่ไปยังคิวรถตู้ตลาดเกษตร เพื่อเดินทางไปยังท่าเรือปากบารา โดยระบุว่าเรือออกเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะเฉพาะช่วง 11.30 – 13.30 น. ขอแนะนำให้มาถึงหาดใหญ่ก่อนเวลา 9.00 น. เพื่อความสะดวกครับ
วิธีการเดินทางที่สองเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบผจญภัยและชื่นชมวิวทิวทัศน์ระหว่างการเดินทางคือการใช้รถไฟ โดยนั่งขบวนรถไฟ กรุงเทพฯ – ยะลา หรือ กรุงเทพฯ – หาดใหญ่ แล้วลงที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ (สามารถแวะกินไก่ทอดหาดใหญ่ได้) จากนั้นสามารถนั่งแท็กซี่ไปยังคิวรถตู้ตลาดเกษตร เพื่อเดินทางไปยังท่าเรือปากบารา
เส้นทางต่อไปคือการใช้รถประจำทาง เช่น รถโดยสารปรับอากาศหรือรถโดยสารแบบธรรมดา จากกรุงเทพฯ – สตูล สามารถเลือกใช้ได้ตามความสะดวกคุณเอง