“เกาะหลีเป๊ะ” เป็นเกาะเล็กที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดสตูล อยู่ทางตอนใต้ของเกาะอาดังและใต้ที่สุดของทะเลอันดามัน สถานที่ท่องเที่ยวนี้เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวทุกคนในการเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ เพราะมีความเงียบสงบและท้องทะเลที่สะอาดสดใส และสวยงามอย่างมากๆ จุดเด่นของเกาะนี้คือมีหาดทรายที่สวยงามและปะการังล้อมรอบเกาะอย่างสวยงามตามธรรมชาติ
ปะการังเป็นที่โดดเด่นที่สุด เป็นปะการังเจ็ดสีที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมาก บนเกาะนี้มีชายหาดยอดนิยมที่มีทั้งหมด 4 หาด ได้แก่ หาดพัทยา (ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด), หาดซันเซ็ท, หาดคาร์มา และหาดซันไรท์ เป็นที่พักผ่อนที่เหมาะแก่การพักผ่อนมากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนนี้ที่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการไปเที่ยวทะเล
เกาะหลีเป๊ะ ในสตูลเป็นเกาะที่ได้รับความนิยมมากในฝั่งทะเลอันดามันมาตั้งแต่เนิ่นนาน หลายคนใฝ่ฝันที่จะได้มาเที่ยวที่นี่อย่างน้อยหนึ่งครั้ง จุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะคือน้ำทะเลที่มีฟ้าเขียวใส มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม และหาดทรายละเอียดนุ่มนวลขาวเหมือนแป้ง ความเป็นธรรมชาติของปะการังรายล้อมรอบเกาะ รวมทั้งยังมีจุดท่องเที่ยวและจุดดำน้ำต่างๆบนเกาะต่างๆ นี่เป็นเกาะที่เดินทางสะดวก มีแพคเกจทัวร์ท่องเที่ยวให้บริการ มีที่พักที่ตั้งอยู่ริมทะเลให้เลือกหลายแห่ง ร้านอาหาร ร้านค้าชุมชน ที่ตอบสนองความต้องการของการท่องเที่ยวสำหรับผู้ชื่นชอบและะรักธรรมชาติที่ท้องทะเลไทย
Table of contents
มาเที่ยว เกาะหลีเป๊ะ ควรใช้เวลากี่วัน
มาเที่ยว เกาะหลีเป๊ะ ควรมีเวลา 3 วัน 2 คืน แต่ถ้าจะดำน้ำด้วยเพื่อไม่ให้เหนื่อยมาก 4 วัน 3 คืน คือ เวลาที่เหมาะสม เพราะกว่าจะนั่งเครื่องบินมาต่อรถต่อเรือ หรือการเดินทางวิธีอื่น มาถึงท่าเรือปากบาราไปเกาะหลีเป๊ะเรือรอบแรก 11.30 น. รวมแวะเกาะไข่ เกาะตะรุเตา มาถึงเกาะหลีเป๊ะบ่ายสองโมง ยังไม่ทันหายเหนื่อยจากการเดินทางก็หมดวัน วันต่อไป 9 โมง ไปด้ำน้ำกลับมาบ่ายสองหรือสี่โมงเย็นอาจจะเพลียมาก เช้าวันต่อมารอบเรือกลับ มีสองรอบ คือ 9.30 น.และ 11.30 น. ยังไม่ได้ดื่มด่ำกับชายหาดในช่วงเวลาที่สวย คือ เที่ยงถึงบ่าย ก็ต้องกลับ
ตัวอย่างเพลนคร่าวๆ หากมาเที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืน วันแรกมาถึงบ่ายสอง พักผ่อนแวะไปเที่ยว zodiac beach bar หรือถนนคนเดิน วันที่สอง ดำน้ำ 1 วันเต็ม พักผ่อน วันที่สามเดินทางกลับเรือรอบ 09.30 น. หรือ 11.30
แต่ถ้าใครไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา แนะนำ 4 วัน 3 คืน โปรแกรมวันแรก มาถึงบ่ายสองพักผ่อน วันที่สอง พักผ่อนริมหาด เที่ยวตามจุดต่างๆรอบหาด รวมถนนคนเดิน หรือจะนั่งเรือยอร์ชมพระอาทิตย์ตก มีแพคเกจขาย วันที่สาม ดำน้ำ 1 วัน เต็มๆ วันที่สี่ เดินทางกลับ แบบนี้จะเหนื่อยน้อยและชิลมาก เที่ยวได้ครบของความเป็นหลีเป๊ะ
เริ่มต้นเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ
มาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ จะซื้อแพคเกจกับทางบริษัททัวร์นำเที่ยว หรือซื้อกับทางรีสอร์ทโดยตรงหรือจะจองด้วยตัวเองทั้งหมดก็ได้ แต่ราคาจองกับรีสอร์ทหรือทัวร์ แบบพัก 3 วัน 2 คืน ขึ้นไป ราคาอาจถูกกว่า และสะดวกกว่าเพราะไม่ต้องวางเพลนอะไร ทางที่พักและทัวร์จะจองและจัดทุกอย่างทั้งหมด ตั้งแต่รถรับส่ง เรือ และที่พัก รวมทั้งแพคเกจดำน้ำ แต่จะไม่รวมอาหารบางมื้อ ซึ่งส่วนใหญ่จะจัดแพคเกจแบบ 3 วัน 2 คืน ขึ้นไป รายละเอียดแพคเกจคล้ายกัน คือ รวมรถไปรับสนามบิน เรือไปกลับ ที่พัก 2 คืน และอาจมีแพคเกจดำน้ำ 1 วัน ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3000-12000 บาท Up ขึ้นอยู่ว่าเลือกที่พักที่ไหน เพราะที่พักแต่ละแห่งราคาไม่เท่ากัน ถ้าติดหาดสวยหรู ราคาแพคเกจจะสูงขึ้น
รอบเรือเดินทาง ไปกลับเกาะหลีเป๊ะ
รอบเรือเดินทางไปกลับเกาะหลีเป๊ะเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังเกาะหลีเป๊ะ การเดินทางโดยเรือใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีต่อทางเรือ โดยมีท่าเรือที่หาดพัทยาเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วเรือได้ที่ท่าเรือหรือที่โรงแรมริมหาด ราคาตั๋วขึ้นอยู่กับเรือและเวลารอบเรือ โดยในบางครั้งอาจมีการจองตั๋วล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการเดินทาง การเดินทางด้วยเรือจะทำให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับการชมวิวทะเลและบรรยากาศของท้องทะเลในระหว่างเดินทางไปยังเกาะหลีเป๊ะ
ท่าเรือปากบารา ไปยัง เกาะหลีเป๊ะ มีเวลาออกเรือ 2 รอบ
- รอบเช้า เวลา 11.30 น. (ซึ่งรอบนี้จะแวะเกาะไข่และเกาะตะรุเตาไปด้วย)
- รอบบ่าย เวลา 13.30 น.
เกาะหลีเป๊ะ ไปยัง ท่าเรือปากบารา มีเวลาออกเรือ 2 รอบ
- รอบเช้า เวลา 09.30 น.
- รอบบ่าย เวลา11.30 น.
ในการเดินทางด้วยเรือสปีดโบท์ไปกลับระหว่างท่าเรือปากบาราและเกาะหลีเป๊ะ มีราคาตั๋วเรือประมาณ 1,000 บาท โดยบางแห่งอาจมีค่าตั๋วสูงกว่า 1,200 บาท นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วเรือที่ท่าเรือหรือซื้อจากรีสอร์ทที่พัก หรือจะซื้อตั๋วรถรับส่งจากสนามบินก็ได้ สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมหรือซื้อตั๋วกับทัวร์นำเที่ยวเกาะหลีเป๊ะได้ตามความสะดวกคุ้มค่าของนักท่องเที่ยวครับ คุณสามารถติดต่อรีสอร์ทที่พักเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เช่นกัน
การเดินทางไป เกาะหลีเป๊ะ
1. การเดินทางโดยเครื่องบิน
สายการบินที่บริการเที่ยวบิน กรุงเทพ – หาดใหญ่
หากต้องการเดินทางไปยังเกาะหลีเป๊ะจากท่าอากาศยานหาดใหญ่ สามารถทำได้โดยทางท่าเรือปากบาราครับ โดยต้องเดินทางจากท่าอากาศยานไปยังคิวรถตู้ตลาดเกษตร แล้วต่อรถตู้จากคิวรถตู้ตลาดเกษตรไปยังท่าเรือปากบารา โดยระบุเจ้าหน้าที่ว่าต้องการลงที่ท่าเรือปากบาราครับ
หมายเหตุ: เนื่องจากตารางเวลาเรือเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะมีเวลาเฉพาะในช่วงระยะเวลา 11.30 น. – 13.30 น. และเรือเดินทางกลับจากเกาะหลีเป๊ะมีช่วงเวลา 9.00 น. – 12.30 น. ดังนั้นควรจองตั๋วเที่ยวบินเข้าหาดใหญ่ก่อนเวลา 11.00 น. และตั๋วเที่ยวบินกลับเป็นเที่ยวบินหลังเวลา 16.00 น. เพื่อให้สอดคล้องกับตารางการเดินทางของเรือไป-กลับ เกาะหลีเป๊ะ
2. การเดินทางโดยรถตู้
สนามบินหาดใหญ่ ————> คิวรถตู้ตลาดเกษตร———-> ท่าเรือปากบารา
จุดที่ 1: ขึ้นรถตู้สนามบินหรือรถสองแถวไปยังคิวรถตู้ตลาดเกษตร โดยมีค่าใช้จ่ายคือ 80 บาทต่อท่านสำหรับรถตู้สนามบินและ 20 บาทต่อท่านสำหรับรถสองแถว
จุดที่ 2: ขึ้นรถตู้สายหาดใหญ่-ท่าเรือปากบาราจากคิวรถตู้ตลาดเกษตรและลงที่ท่าเรือปากบารา ค่ารถตู้คือ 100 บาทต่อท่าน
- ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางจากคิวรถตู้ไปยังท่าเรือปากบาราคือประมาณ 2 ชั่วโมงโดยไม่รวมระยะเวลาในการรอรถ
- หากท่านต้องการจองรถตู้เพื่อให้ไปรับที่สนามบิน ราคาเที่ยวละ 250 บาทต่อท่านสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการให้รถตู้ไปรับที่สนามบินและ ราคาเที่ยวละ 200 บาทต่อท่านสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการให้รถตู้ไปส่งที่สนามบินภูเก็ต
- สำหรับคณะที่มีจำนวนผู้เดินทางมากๆ สามารถเช่ารถตู้ได้ในราคาเที่ยวละ 2000 บาท และหากต้องการใช้บริการรถแท็กซี่ ค่าบริการเที่ยวละ 1500 บาท
หมายเหตุ: กรุณาตรวจสอบตารางเวลารถตู้เพื่อยืนยันรอบเดินทางที่เหมาะสมกับการเดินทางของท่าน และค่าใช้จ่ายอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ปัจจุบัน อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือปรับปรุง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำที่สุด โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ที่สนามบินหรือสอบถามที่ท่าเรือปากบาราก่อนการเดินทาง
3. การเดินทางโดยรถไฟ
สำหรับการเดินทางไปยังหาดใหญ่จากกรุงเทพฯ ท่านสามารถใช้บริการขบวนรถไฟ กรุงเทพฯ – ยะลา หรือ กรุงเทพฯ – หาดใหญ่ โดยการซื้อตั๋วและระบุลงที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จากนั้นท่านสามารถนั่งรถแท็กซี่ที่สถานีจอดรถใต้สะพานลอย หน้าที่ทำการไปรษณีย์สาขารถการ หรือใช้บริการรถตู้โดยสาร หรือรถโดยสารประจำทางเข้าจังหวัดสตูล ระยะทางประมาณ 97 กิโลเมตร สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง หรือติดต่อโทรศัพท์ได้ที่หมายเลข 02-2237010, 02-2237020 หรือตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
4. การเดินทางโดยรถประจำทาง
มีรถโดยสารปรับอากาศและรถธรรมดา กรุงเทพฯ – สตูล ให้บริการ ทุกวัน โดยรถเริ่มให้บริการที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี สอบถาม รายละเอียดการให้บริการได้ที่ สถานีขนส่ง รถโดยสารธรรมดา โทรหมายเลข 02-4345557-8, รถโดยสารปรับอากาศ โทรหมายเลข 02-4351199 หรือตรวจสอบรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ thai-tour
5. การเดินทางโดยรถส่วนตัว
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 , ผ่านจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านเข้าเขต จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง จากพัทลุงไปอำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 แล้วแยกขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 406 ถึงจังหวัดสตูล ระยะทาง 973 กิโลเมตร สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไป ยังเกาะหลีเป๊ะ เมื่อถึงบริเวณสามแยกฉลุง เลี้ยวขวาไปตามเส้นทาง ฉลุง-ละงู ผ่านอำเภอท่าแพ เข้าสู่ตัวเมืองอำเภอละงู แล้วขับเลยไปท่าเทียบเรือปากบารา (บริเวณท่าเทียบเรือปากบาราจะมีสถานที่ให้บริการจอดรถที่สะดวก ปลอดภัย ไว้บริการ)
6. การเดินทางจากท่าเรือต่างๆ
- จากท่าเรือ ปากบารา /สตูล
- เรือ Speedboat ใช้เวลาเดินทางถึงเกาะหลีเป๊ะประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที มีการเดินเรือทุกวันตั้งแต่เวลา 11.30 น. – 13.30 น. ค่าตั๋วเรือโดยสารเป็น 900 บาทต่อท่านสำหรับเส้นทางไป-กลับ ระหว่างท่าเรือปากบาราและเกาะหลีเป๊ะ
- เรือ Ferry หรือเรือไม้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ค่าตั๋วเรือโดยสารเป็น 800 บาทต่อท่านสำหรับเส้นทางไป-กลับ ระหว่างท่าเรือปากบาราและเกาะหลีเป๊ะ
- จากท่าเรือ ตำมะลัง /สตูล
- เรือ Ferry เวลา 12.30 น. ค่าตั๋วเรือโดยสารเป็น 900 บาทต่อท่านสำหรับเส้นทางไป-กลับ ระหว่างท่าเรือตำมะลังและเกาะหลีเป๊ะ
- จากท่าเรือ ศาลาด่าน /เกาะลันตา จังหวัด กระบี่
- เรือเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที ในเส้นทางนี้จะผ่านเกาะสำคัญของจังหวัดกระบี่และตรังเช่น เกาะมุก เกาะไหง เกาะบุโหลน เป็นต้น มีเรือออกทุกวันเวลา 13.00 น.
- จากท่าเรือ เตละกา /เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย
- ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชั่วโมง มีเรือออกทุกวันเวลา 08.30 น. เพื่อเดินทางไปยังเกาะหลีเป๊ะ (สำหรับเที่ยวกลับจากเกาะหลีเป๊ะจะมีเรือออกเวลา 16.30 น.)
ที่เที่ยวหลีเป๊ะ เกาะหลีเป๊ะ เป็นที่เที่ยวที่มีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ในจังหวัดสตูล หาดทรายขาวละเอียดสะอาดรอบทะเลที่สวยงามและมีน้ำทะเลใส คุณสมบัติธรรมชาติที่สวยงามของเกาะนี้ ทำให้มันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากๆ สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากหาดทรายที่สวยงามแล้ว ยังมีเวิ้งอ่าวที่เป็นจุดชมวิวที่สวยงามของเกาะหลีเป๊ะด้วย คุณสามารถผจญภัยไปกั้นชิดกับธรรมชาติและสัมผัสกับความสงบเงียบของท้องทะเลได้ที่นี่
หาดพัทยาเป็นหาดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดบนเกาะหลีเป๊ะ เป็นที่พักผ่อนที่มีความสะอาดและความเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีหาดซันเซ็ท หาดคาร์มา และหาดซันไรส์ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาก ซึ่งทุกหาดมีความสวยงามและเป็นที่น่าท่องเที่ยวอย่างมาก
เกาะหลีเป๊ะเป็นที่เที่ยวที่เหมาะแก่การพักผ่อนและผจญภัยในช่วงฤดูร้อน คุณสามารถเพลิดเพลินกับทะเลอันดามันที่สวยงามและชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำต่างๆ เช่น ดำน้ำตื้นหรือดำน้ำตื้นตื้น นอกจากนี้ยังสามารถเล่นกีฬาทางน้ำและสำราญกับครอบครัวและเพื่อนๆ ได้อย่างสนุกสนาน
สถานที่ท่องเที่ยวบน เกาะหลีเป๊ะ
ขอเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับชายหาดในเกาะหลีเป๊ะ ที่มีชายหาดหลัก 3 แห่งคือ หาดพัทยา หาดซันไรส์ และหาดซันเซ็ท ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งต่างๆ และสามารถเดินทางไปได้โดยใช้รถมอเตอร์ไซต์พ่วงหรือที่เรียกว่าแท็กซี่บนเกาะ ซึ่งค่าบริการใช้จ่ายที่คิดค่าบริการให้ลูกค้าคนละ 50 บาท
- หาดพัทยา: เป็นหาดที่เป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะ ท่าเรือที่ใช้รับส่งนักท่องเที่ยวไปยังหาดต่าง ๆ อยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังเป็นที่อาศัยของชาวบ้านบนเกาะ มีร้านค้า ร้านอาหาร และรีสอร์ทสำหรับการพักผ่อน จุดขึ้นเรือไปดำน้ำยังเป็นจุดเด่นอีกด้วย น้ำทะเลบริเวณหาดพัทยามีความใส แต่พื้นที่หาดทรายไม่มากและลาดเอียงลงสู่ทะเล
- หาดซันไรส์: เป็นชายหาดที่สวยที่สุดบนเกาะหลีเป๊ะ มีบรรยากาศเงียบสงบและเวิ้งอ่าวทอดยาว น้ำทะเลในบริเวณหาดซันไรส์ใสและหาดทรายละเอียด มีที่พักหลายแห่งให้เลือก บริเวณหน้าหาดมีเมาท์เท่น รีสอร์ทที่เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยม และเป็นที่ตั้งของบีชบาร์ชื่อดัง “Zodiac seesun beach bar” ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเกาะหลีเป๊ะมักมาพักผ่อนที่หาดแห่งนี้ ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามบนเกาะหลีเป๊ะ
- หาดซันเซ็ท: เป็นชายหาดที่เงียบสงบ มีความสวยงามไม่เท่ากับ 2 หาดแรก และมีที่พักค่อนข้างน้อย จึงไม่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทยมากนัก
หาดในเกาะหลีเป๊ะมีความหลากหลายและมีเสน่ห์ของแต่ละที่ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกตามความชอบและความต้องการของตนเองได้
ถนนคนเดินบนเกาะหลีเป๊ะ
ถนนคนเดินหลีเป๊ะ เป็นถนนที่เป็นทางเดินสำหรับคนเดินเท้าบนเกาะหลีเป๊ะ ถนนนี้เชื่อมต่อกับหาดพัทยาและหาดซันไรส์ เป็นที่รวมกลุ่มร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และร้านค้าชุมชนต่างๆ ที่นี่เต็มไปด้วยสินค้าท้องถิ่น อาทิเช่นเสื้อผ้าชุดพื้นเมือง เครื่องประดับทำมือ ของหวาน ผลิตภัณฑ์จากทะเล เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารที่บริการอาหารท้องถิ่นและอาหารทะเลสดๆ สามารถนั่งรับประทานอาหารได้ริมทะเลอันดามัน ถนนคนเดินหลีเป๊ะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาช้อปปิ้ง สัมผัสวัฒนธรรมและธรรมชาติของเกาะหลีเป๊ะอย่างใกล้ชิด
สถานที่ท่องเที่ยวรอบเกาะ
หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทำเมื่อมาถึงเกาะหลีเป๊ะคือการดำน้ำและท่องเที่ยวเกาะใกล้เคียง คุณสามารถซื้อแพคเกจทัวร์วันเดียวที่นำเที่ยวและดำน้ำรอบเกาะต่างๆ ได้ที่รีสอร์ทที่พักโดยตรง หรือหากต้องการแพคเกจทัวร์ 3 วัน 2 คืน สามารถซื้อกับบริษัททัวร์เกาะหลีเป๊ะหรือซื้อจากที่พักที่เป็นรีสอร์ทได้ แพคเกจดำน้ำจะมีระยะเวลา 1 วัน แต่ควรสอบถามว่าเป็นรอบดำน้ำภายในหรือรอบดำน้ำภายนอก โดยทั่วไปแล้ว รอบดำน้ำภายในจะมีเส้นทางใกล้และเรือออกทุกวัน แต่สำหรับโซนภายนอกควรตรวจสอบก่อน แนะนำให้ซื้อแพคเกจทัวร์ในโซนภายนอก เพราะจะครอบคลุมเกาะที่มีความเด่นๆ ทั้งหมด หรือหากมีผู้เข้าร่วมหลายคนสามารถเช่าเรือท่องเที่ยวและแวะเที่ยวสถานที่ต่างๆ ได้ตามต้องการ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่ที่พักหรือรีสอร์ทที่พักได้เช่นกัน
รายละเอียดแพคเกจดำน้ำมี 2 แบบ
- ดำน้ำเกาะโซนนอก:
- ราคาแพคเกจแบบกรุ๊ปจอยเป็น 700 บาท ส่วนราคาเหมาเรือหางยาวประมาณ 2,500 – 3,500 บาท (ขึ้นอยู่กับจำนวนคน) การท่องเที่ยวเริ่มต้นเวลา 09.00 น. – 16.00 น. เกาะที่เดินทางแวะไปได้มีดังนี้ เกาะหินซ้อน เกาะไผ่ อ่าวกำนัน เกาะรอกลอย เกาะราวี เกาะยาง เกาะหินงาม และร่องน้ำจาบัง
- ดำน้ำเกาโซนใน: ราคาแพคเกจแบบกรุ๊ปจอยเป็น 600 บาท ส่วนราคาเหมาเรือหางยาวประมาณ 1,600 – 2,500 บาท (ขึ้นอยู่กับจำนวนคน) เวลาเดินทางเริ่มต้นเวลา 09.00 น. – 14.00 น. โซนนี้ใช้เวลาเดินทางน้อยกว่าโซนนอก สำหรับเกาะที่แวะไปได้ประกอบด้วย ร่องน้ำจาบัง เกาะหินงาม เกาะอาดัง เกาะราวี และเกาะยาง
เกาะเด่นในแพคเกจดำน้ำ
- เกาะอาดัง: เกาะอาดังตั้งอยู่ตรงข้ามเกาะหลีเป๊ะและสามารถมองเห็นได้จากหาดซันไรส์โดยไม่ไกลเท่าไร สามารถเดินทางไปยังเกาะอาดังโดยใช้เรือหางยาวซึ่งใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น บนเกาะอาดังยังเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติตะรุเตาซึ่งมีหาดทรายขาวละเอียด มีที่พักและร้านอาหารของอุทยานแห่งชาติ และมีที่พักเอกชนเพียงแห่งเดียวคือ อาดัง ไอแลนด์ รีสอร์ท บนเกาะอาดังยังมีจุดชมวิว “ผาชะโด” ซึ่งในอดีตเคยเป็นจุดสังเกตการณ์ของโจรสลัดเพื่อเข้าโจมตีเรือสินค้า ปัจจุบันเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ใช้เวลาเดินขึ้นไปยังผาชะโดเพียง 40 นาที บนผาชะโดเป็นลานโล่งที่มองลงไปจะเห็นทิวสนและแหลมทรายสีขาวของเกาะอาดังและเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
- เกาะราวี: เกาะราวีเป็นเกาะพี่น้องของเกาะอาดังและอยู่ห่างจากเกาะอาดังเพียง 1 กิโลเมตร มีหาดทรายที่ขาวสวยสะอาด น้ำทะเลใส และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการเพลิดเพลินและเล่นน้ำ รับประทานอาหารกลางวันหลังจากการดำน้ำไปยังจุดต่างๆ หรืออาจดำน้ำชมปะการังรอบเกาะ
- เกาะหินงาม: เกาะหินงามเป็นเกาะขนาดเล็กทางทิศใต้ของเกาะอาดัง ไม่มีหาดทรายขาวเหมือนเกาะอื่นแต่มีก้อนหินสีดำกลมเกลี้ยงมากมาย ในตอนโดนคลื่นซัดก้อนหินจะเป็นมันวาวยิ่งขึ้น มีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตาซึ่งห้ามนำเคลื่อนย้ายออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ
- เกาะรอกลอย: เกาะรอกลอยเป็นเกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในแพคเกจดำน้ำโซนนอก ห่างจากเกาะหลีเป๊ะประมาณหนึ่งชั่วโมง จุดเด่นของเกาะรอกลอยคือหาดทรายที่ขาวสะอาดและมีลักษณะเป็นแหลมสาเกาะรอกลอย: เกาะรอกลอยเป็นเกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในแพคเกจดำน้ำโซนนอก ห่างจากเกาะหลีเป๊ะประมาณหนึ่งชั่วโมง จุดเด่นของเกาะรอกลอยคือหาดทรายที่ขาวสะอาดและมีลักษณะเป็นแหลมสามเหลี่ยมยื่นออกไปในทะเล ปลายแหลมอยู่ใกล้กับเกาะดง มีหาดทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีเขียวมรกต นับเป็นเกาะที่เงียบสงบ น้ำทะเลใส หาดทรายขาว และมีความใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะกับการเล่นน้ำถ่ายภาพ เดินเล่นริมชายหาด
- เกาะหินซ้อน: เกาะหินซ้อนเป็นก้อนหินยักษ์รูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมที่วางซ้อนกันอยู่อย่างสมดุลกลางทะเล ด้วยลักษณะเป็นก้อนหินซ้อนกันมันเป็นเอกลักษณ์ บางคนเรียกกองหินเรือดำน้ำ บางคนก็บอกว่ามันคล้ายเจ้าตัวโมอายแห่งเกาะอีสเตอร์ กองหินบริเวณนี้ มีทั้งปะการังอ่อน ปะการังแข็ง และดอกไม้ทะเลสีสันสวยงาม รอบเกาะหินซ้อนจึงเป็นที่นิยมของคนที่สนใจดำน้ำตื้น หรือ snorkeling การดำน้ำบริเวณนี้ต้องระมัดระวัง เพราะกระแสน้ำค่อนข้างเชี่ยวเนื่องจากเป็นทะเลเปิด
- ร่องน้ำจาบัง: ร่องน้ำจาบังเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมและเป็นที่รู้จักกันดี มีการดำน้ำที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามที่สุด มีปะการัง 7 สี ที่มีความสวยงามทั้งสีแดงและสีชมพู นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ทะเลและฝูงปลาทะเลต่างๆ อย่างปลาการ์ตูน แต่กระแสน้ำในที่นี้ค่อนข้างแรง ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการดำน้ำและควรสวมชุดชูชีพติดตัว
- เกาะหินงาม: เกาะหินงามเป็นเกาะขนาดเล็กทางทิศใต้ของของเกาะอาดัง ไม่มีหาดทรายขาวเหมือนเกาะอื่น แต่เต็มไปด้วยก้อนหินสีดำกลมเกลี้ยงมากมาย ยามโดนคลื่นซัดก้อนหินจะเป็นมันวาวยิ่งขึ้น มีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตาซึ่งห้ามนำเคลื่อนย้ายออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ
- เกาะรอกลอย: เกาะรอกลอยเป็นเกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในแพคเกจดำน้ำโซนนอก ห่างจากเกาะหลีเป๊ะประมาณหนึ่งชั่วโมง จุดเด่นของเกาะรอกลอยคือหาดทรายที่ขาวสะอาดและมีลักษณะเป็นแหลมสามเหลี่ยมยื่นออกไปในทะเล ปลายแหลมอยู่ใกล้กับเกาะดง มีหาดทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีเขียวมรกต นับเป็นเกาะที่เงียบสงบ น้ำทะเลใส หาดทรายขาว และมีความใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะกับการเล่นน้ำถ่ายภาพ เดินเล่นริมชายหาด
- เกาะหินซ้อน: เกาะหินซ้อนเป็นก้อนหินยักษ์รูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมที่วางซ้อนกันอยู่อย่างสมดุลกลางทะเล ด้วยลักษณะเป็นก้อนหินซ้อนกันมันเป็นเอกลักษณ์ บางคนเรียกกองหินเรือดำน้ำ บางคนก็บอกว่ามันคล้ายเจ้าตัวโมอายแห่งเกาะอีสเตอร์ กองหินบริเวณนี้ มีทั้งปะการังอ่อน ปะการังแข็ง และดอกไม้ทะเลสีสันสวยงาม รอบเกาะหินซ้อนจึงเป็นที่นิยมของคนที่สนใจดำน้ำตื้น หรือ snorkeling การดำน้ำบริเวณนี้ต้องระมัดระวัง เพราะกระแสน้ำค่อนข้างเชี่ยวเนื่องจากเป็นทะเลเปิด
- ร่องน้ำจาบัง: ร่องน้ำจาบังเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมและเป็นที่รู้จักกันดี มีการดำน้ำที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามที่สุด มีปะการัง 7 สี ที่มีความสวยงามทั้งสีแดงและสีชมพู นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ทะเลและฝูงปลาทะเลต่างๆ อย่างปลาการ์ตูน แต่กระแสน้ำในที่นี้ค่อนข้างแรง ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการดำน้ำและควรสวมชุดชูชีพติดตัว
- เกาะอาดัง: เกาะอาดังตั้งอยู่ตรงข้ามเกาะหลีเป๊ะและสามารถมองเห็นได้จากหาดซันไรส์แบบไม่ไกลเท่าไร สามารถเดินทางไปยังเกาะอาดังโดยใช้เรือหางยาวซึ่งใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น บนเกาะอาดังยังเป็นที่ตั้งของหน่วยพทักษ์อุทยานแห่งชาติตะรุเตาซึ่งมีหาดทรายขาวละเอียด มีที่พักและร้านอาหารของอุทยานแห่งชาติ และมีที่พักเอกชนเพียงแห่งเดียวคือ อาดัง ไอแลนด์ รีสอร์ท บนเกาะอาดังยังมีจุดชมวิว “ผาชะโด” ซึ่งในอดีตเคยเป็นจุดสังเกตการณ์ของโจรสลัดเพื่อเข้าโจมตีเรือสินค้า ปัจจุบันเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ใช้เวลาเดินขึ้นไปยังผาชะโดเพียง 40 นาที บนผาชะโดเป็นลานโล่งที่มองลงไปจะเห็นทิวสนและแหลมทรายสีขาวของเกาะอาดังและเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม